เราได้รู้จักนำเอาพืชมาใช้เป็นยาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เดิมนำมาใช้ในรูปแบบพืชสด พืชแห้ง และยาเตรียมง่ายๆ ต่อมาได้มีวิวัฒนาการเพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่น่าใช้และได้ผลแน่นอน จึงได้มีการสกัดสารสำคัญในการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามาใช้เป็นยาในรูปสารบริสุทธิ์ ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำเอาพืชมาใช้เป็นยาในรูปแบบต่างๆ คือ
1. Fresh plant material แบบพืชสด โดยมากใช้ในยาแผนโบราณ (Folk medicine หรือ Herbal medicine)
2. Dried plant material แบบพืชแห้ง วิธีการทำตัวอย่างให้แห้งมีหลายวิธี ขึ้นกับชนิดของพืชและสารสำคัญ เช่น พืชซึ่งเป็นวัตถุดิบในการสกัดน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil หรือ Essential oil) จะต้องระวังมาก เพราะที่อุณหภูมิสูงปริมาณน้ำมันหอมระเหยจะลดลง
3. Acellular product เป็นสารสกัดจากพืช (Plant isolates) เป็นส่วนผสมซับซ้อนของสารประกอบหลายชนิด ได้มาจากการสกัดพืชสดโดยวิธีการเฉพาะ เช่น resin และ balsams ซึ่งเป็น exudate ที่ได้มาจากต้นไม้เมื่อกรีดหรือลอกเปลือกต้นออก, น้ำมันพืชได้จากการบีบหรือคั้นพืชสด น้ำมันหอมระเหยได้จากการกลั่นด้วยไอน้ำ (Steam distillation) น้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น น้ำมันจากผิวส้ม จำเป็นต้องใช้การบีบเย็น (Cold expression) เนื่องจากความร้อนจะทำให้เกิด Acidic catalysed rearrangement ทำให้น้ำมันคุณภาพเสื่อมลง โดยน้ำมันหอมระเหยจากกลีบดอกไม้ต้องใช้วิธี Enfleurage
4. Galenical preparation เป็นการสกัดเพื่อนำมาใช้โดยตรงไม่ต้องผ่านขบวนการทำให้บริสุทธิ์ ตัวทำละลายที่ใช้มักเป็นส่วนผสมของน้ำและแอลกอฮอล์
5. Pure Compound หรือ สารบริสุทธิ์ เช่น Alkaloid ได้แก่ Atropine, Reserpine, Morphine